สงครามครูเสดกษัตริย์ถังแตกรีดภาษีประชาชนและขุนนาง

โดยเหล่าขุนนางก็ไม่ได้รับการปะกันสิทธิต่างๆเป็นเอกสารจริงจังมีแต่คำพูดตามพิธีของกษัตริย์ในวันขึ้นครองราชย์

เมื่อพระเจ้าริชาร์ดใจสิงห์สิ้นพระชนม์ พระเจ้าจอห์นน้องชายก็ขึ้นครองราชย์จึงเกิดแนวคิดของขุนนางและบารอนที่จะร่างสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรขึ้นมา

ให้กษัตริย์เซ็นชื่ออย่างจริงๆจังๆสักทีประกอบกับตอนขึ้นครองราชย์พระเจ้าจอห์นไม่แม้แต่จะให้คำมั่นสัญญาเป็นพระราชดำรัสตามธรรมเนียมด้วยซ้ำไม่ยอมพูดก็ต้องจับเซ็นต์ แต่แม้ว่าพวกบารอนหรือขุนนางจะไม่ได้พยายามจำกัดอำนาจของกษัตริย์ เพื่อประโยชน์ของประชาชน

แต่มหากฎบัตร แมกนา คาร์ตา ก็เป็นการจำกัดอำนาจของกษัตริย์ซึ่งวางรากฐานที่ลึกมากๆเลยของระบอบประชาธิปไตยเอาไว้และอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือรากฐานทางกฎหมายที่สำคัญมากๆคือไม่มีความผิดหากไม่มีกฎหมายซึ่งสำคัญมากเลยเพราะก่อนจะมีแมกนาคาร์ตา

 

กษัตริย์พูดว่าใครผิดคนนั้นก็หัวขาดได้เลยไม่ต้องมาถามไถ่ไม่ต้องมาชี้แจงแต่เมื่อมีแมกนาคาร์ตาแล้วกษัตริย์ต้องออกกฎหมายซะก่อนบอกว่าอะไรผิดแล้วใครทำแบบนั้นคนนั้นๆจะมีความผิดหลังจากยุคของพระเจ้าจอห์นมีการพัฒนาของแมกนาคาร์ตาต่อมาเรื่อยๆ

ตามรัชสมัยของกษัตริย์องค์ต่อๆมาคำว่ารัฐสภาหรือ Parliament ได้รับการบัญญัติขึ้นเป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1236 เพื่อเรียกสภาที่ปรึกษาของกษัตริย์สภานี่ประกอบไปด้วย บารอน หรือ ชนชั้นผู้ถือครองที่ดินและเหล่าผู้นำทางศาสนาคริสต์หรือ พระนั่นแหละ

สงครามครูเสดกษัตริย์ถังแตกรีดภาษี ซึ่งจะประชุมกับกษัตริย์ปีละ 3 ครั้งสภาในท้องถิ่นในรูปแบบคล้ายๆกันเกิดขึ้นทั่วๆไปในเกาะอังกฤษในยุคกลางนี้เช่นเดียวกันแต่จะมีส่วนประกอบของประชาชนหรือคนสามัญร่วมด้วยสภาท้องถิ่นต่างๆเหล่านี้ไม่ได้มีรูปแบบตายตัวแต่คอนเซ็ปต์ก็คล้ายๆกันก็คือเป็นการรวมตัวกันของผู้แทนกลุ่มต่างๆ

เพื่อออกกฎหมายต่อรองผลประโยชน์ซึ่งหลักๆก็คือต่อรองเรื่องการเสียภาษีนั่นแหละในคริสต์ศตวรรษที่13 สภาหรือ Parliament เริ่มมีอำนาจมากขึ้นในปี ค.ศ. 1295 กษัตริย์เริ่มเรียกตัวแทนอัศวินหรือทหารนั่นแหละและก็ประชาชนอย่างละ 2 คนจากเมืองต่างๆ

เข้ามาเป็นสมาชิกของ Parliament หลังปี ค.ศ. 1332 ที่ทางของคนเหล่านี้รวมเรียกว่า สภาสามัญชนหรือ House of Commons ค.ศ.1388 รัฐสภาเริ่มมีอำนาจมากขึ้นถึงขนาดลงมติให้เอารัฐมนตรีของกษัตริย์ไปตัดหัวได้ปี ค.ศ. 1407 กษัตริย์เฮนรี่ที่ 4 

รับรองการไม่แทรกแซงการอภิปรายของสภาและไม่เรียกเก็บภาษีใดๆโดยไม่ผ่านความเห็นชอบของสภาค.ศ.1414 กษัตริย์เฮนรี่ที่ 5 ตกลงไม่ออกกฎหมายใดๆโดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากสภาค.ศ.1500 สภาได้รับการรับรองสิทธิอย่างเป็นทางการที่จะจัดประชุมขุนนางและสามัญชนล้วนมีสิทธิเข้าฟังการประชุมสภา

 

สนับสนุนโดย   aesexy